ในเมืองไทย การพ่นสีบนกำแพงดูจะมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การพ่นกำแพงถูกมองเป็นพฤติกรรมของคนเกเรที่มักใช้พื้นที่สาธารณะประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของสถาบันการศึกษา ซึ่งสำหรับเราก็ไม่รู้สึกว่ามันได้ผลตรงไหน นอกจากจะทำให้คนรังเกียจซะมากกว่า ต่อมามีกลุ่มคนที่คิดดีขึ้นมาหน่อย รับวัฒนธรรมการสร้างศิลปะบนกำแพงจำพวกที่เรียกว่า graffiti (กราฟิตี้) เข้ามา ทำให้ความเป็นศิลปะในผลงานเหล่านั้น ดูมีทิศทางขึ้น แต่ก็ยังเป็นที่นิยมในกลุ่มเฉพาะอยู่
บนเกาะปีนัง เกาะเล็กๆ ที่เหมือนจะไม่มี landmark อะไรไว้โปรโมต นำเอาศิลปะบนผนังมาเป็นจุดขาย เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดิน (หรือจะปั่นจักรยานก็ตามศรัทธา) เพื่อค้นหางานศิลปะที่หลบซ่อนอยู่ตามกำแพงบ้าน ตอนเราไปเที่ยวเกาะปีนัง ใช้วิธีหา app ท่องเที่ยวบน smartphone แล้วก็ไปเจอกับ app อันหนึ่ง ที่แนะนำเกี่ยวกับภาพวาดบนกำแพง ดูน่าสนใจดี ระยะทางก็พอเดินได้ น่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งวัน แต่ใครจะไปนึกว่าหายากนะเนี่ย เกือบเดินเลยซอยที่มีรูปบรู๊ซ ลี เตะแมวเหมียวซะแล้ว มาเอะใจตอนเห็นคนที่ดูเป็นนักท่องเที่ยวเดินออกมาจากซอยนั้น หนีหน่าวนะเฮีย! ดีใจที่ได้เจอ
เสน่ห์ของการเดินเล่น แบบสบายๆ นี่แหละ ที่ทำให้เราชอบปีนัง คือเมืองเค้าไม่ได้ใหญ่ ไม่ได้ซับซ้อน วุ่นวายเกินไป ไว้เราจะนั่งรถไฟไปหาคุณอีกนะ
จากปีนัง เราขึ้นเครื่องบินไปเกาะสุมาตรา (Sumatra) ประเทศอินโดนิเซีย จุดหมายของเราคือสนามบิน กัวลานามู (Kualanamu International Airport) ของเมืองเมดาน (Medan)
เกาะสุมาตราดูตามแผนที่ เกาะนี้คืออยู่ใกล้แหลมมลายูมากที่สุด คือใกล้ไทยมากที่สุดแล้ว เราขึ้นเครื่องบินจากปีนังไปกัวลานามูแค่ข้ามช่องแคบมะละกาแค่นั้นเอง เรียกได้ว่าเป็นเที่ยวบินที่สั้นที่สุดในชีวิต เครื่องขึ้น แอร์รีบแจกใบเข้าเมือง นั่งยังไม่ทันง่วง อ้าว ประกาศให้เตรียมตัวแลนดิ้งแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเห็นและประทับใจในอินโดนีเซียคือการทำผนังบ้านเป็นป้ายโฆษณาแบบสุดอาร์ต คือในไทยตอนนี้สิ่งที่ครองตลาดคงจะเป็นป้ายโฆษณาแบบพิมพ์ดิจิตอล ป้ายไวนิล แบบที่สีสันสวยงาม ภาพคมชัดมาก และใหญ่โตเกะกะบดบังทัศนียภาพสวยๆ ของท้องฟ้าไปหมด ถ้าจะให้ประกวดว่าประเทศไทยมีอะไรมากเนี่ย ขอส่งป้ายเข้าประกวด เป็นประเทศที่ติดป้าย (อะไรนักหนา) มากที่สุดในโลก ในมุมมองของเรา มันเยอะจนรก สำหรับที่อินโดนีเซีย ในเมืองเมดาน และตามเส้นทางขึ้นไป Lake Toba สิ่งที่สังเกตเห็นคือ เค้าระบายสีผนังบ้านทั้งด้านทำเป็นโฆษณา
ป้ายพวกนี้รู้สึกว่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มบริษัทโทรคมนาคม เพราะเห็นมักจะมีเครื่องหมาย 3G ประกอบกับโลโก้ social media จำพวก Facebook, Youtube เหมือนจะสื่อว่า 3G ของบริษัทเค้าเล่น social media ได้ สัญญาณแรง ชัดแจ๋ว อะไรทำนองนั้น
มันดูเป็นศิลปะดี เราให้ผ่าน!! คือเราเป็นเด็กที่โตมาในยุคป้ายวาดใช้ฝีมือคน ที่ชอบและจำได้ดีคือป้ายโฆษณาภาพยนตร์เข้าใหม่ที่จะติดตามสี่แยกไฟแดงต่างๆ คือไม่ใช่แค่เขียนตัวอักษรนะว่าหนัง เรื่องนี้ เรื่องนั้น เข้าฉายแล้ววันนี้ ที่ ไดอาน่า หรือ โรบินสัน แต่เค้าวาดภาพเหมือนใบปิดภาพยนตร์ด้วย บางอันนี่ใหญ่บิ๊กเบิ้ม แบบเห็นไปไกล 100 เมตร ได้ จำได้ว่าตอนไททานิคเข้าฉาย มีภาพแจ๊คกับโรสโต้ลมอยู่หัวเรือไททานิค เราชอบป้ายวาดแบบนั้น มันเป็นผลงานที่มีความทุ่มเท หยาดเหงื่ออยู่ในนั้น ไม่ใช่วาดกันง่ายๆ นะเราว่า ใช้เวลานานกว่าปัจจุบันมาก ที่แค่สั่งคอมพิวเตอร์ ภาพก็ออกมาสวยสดใส คมชัดแล้ว อันนี้แบบกว่าจะเสร็จสักภาพนึงต้องลงแรงไปเยอะ ซึ่งจริงๆ หน้าก็ไม่เหมือนลีโอนาโด เท่าไหร่หรอก คือวาดออกมาดูแก่เชียว แต่มันก็เป็น local culture ดี เห็นแล้วก็เออ นี่แหละ ชั้นเติบโตมากับการดูหน้า ลีโอนาโดแบบแก่ๆ 55555
เดี๋ยวนี้ วัฒนธรรมนี้เริ่มหาย อย่างที่บอก ทำป้ายไวนิลมันเร็วกว่า ได้ภาพที่เหมือนจริงกว่าอีกต่างหาก แต่พอเราไปเห็นผนังโฆษณาที่อินโดนีเซีย ทำให้เรานึกถึงอดีตสมัยเด็กๆ ประเทศเค้าอาจจะอยู่หลังประเทศไทย ในเรื่องการพัฒนาประเทศ แต่ความด้อยๆ พัฒนามันก็มีเสน่ห์ในตัวของมันเอง แบบนี้บ้านเราเคยมีนี่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว อย่างไรบ้าง การไปเที่ยวทำให้เราฉุกคิดเรื่องสิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้
ว่าแต่ว่า ไม่ได้ทดลองใช้ 3G ประเทศเค้า ไม่รู้ว่าจะดีกว่า-ด้อยกว่า บ้านเรายังไงบ้าง
No comments:
Post a Comment