อีกหนึ่งหมู่บ้านที่เราได้ไปเยี่ยมชมบนเกาะ Samosir เป็นชุมชนใหญ่ ใหญ่ในที่นี้คือร้านขายของเยอะ เยอะจริงๆ เรียงราย 2 ฝั่ง ตามเส้นทางเลย คุณไกด์ถึงกับต้องบอกก่อนลงเรือว่า พอลงจากเรือแล้ว ให้เดินตามกันไปจนถึงจุดที่เป็นโลงศพพระราชาก่อน อย่าเพิ่งเถลไถลไปชอปปิ้ง เพราะเดี๋ยวจะปล่อยให้ชอปปิ้งฟรีสไตล์ภายหลัง
เดินๆๆ มาจนถึงที่เก็บศพพระราชา ที่นี่แปลกดี เค้าเก็บศพไว้ในโลงศพ (หิน) นะ แต่ไม่ได้เอาไปฝังใต้ดิน ก็วางอยู่บนพื้นนั่นแหละ
หมวกที่ชายคนดังกล่าวสวมใส่ลักษณะเหมือนหมวกที่ผู้ชายมุสลิมใส่กัน เลยสันนิษฐานว่าพระราชาน่าจะมีที่ปรึกษาเป็นชายมุสลิมคนดังกล่าว
ส่วนหญิงสาวนั้น เรื่องเล่าบอกว่า เป็นคู่หมั้นของพระราชา แต่พระราชามัวแต่สนใจการรบ ขยายอาณาเขตของเผ่า ไม่ใส่ใจหญิงสาว เธอก็เลยไปรักกับผู้ชายอีกคนในหมู่บ้าน พอพระราชารู้เรื่องก็สั่งฆ่าคนรักของหญิงสาว หญิงสาวทราบเข้าก็ถึงกับคลุ้มคั่ง กลายเป็นคนบ้า วิ่งหายไปในป่า แล้วก็สาบสูญไปเลย ไม่มีใครพบศพ เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร ไปถามลุงหลาดนะ เราแค่เป็นพยานบอกเล่า
โลงศพอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงการเข้ามาของศาสนาคริสต์ในพื้นที่แถบนี้แล้ว มีไม้กางเขนประดับอยู่นั่นเอง
จบเรื่องสาระ เราก็ไปเดินชอปปิ้ง ก็สนุกสนานละลายเงินรูเปียดีค่ะ
กลับขึ้นเรือ ก่อนออกจากฝั่ง เกือบบ่ายโมงแล้ว ได้ตัวช่วยเป็น Indo Instance Mee เฮ!! ขึ้นมาขายเราถึงบนเรือเลยค่ะ มาม่าอินโดที่กินไปเป็นรสอะไรก็ไม่รู้ พยายามถามสื่อสารแล้วว่ารสอะไรแต่คุยไม่ถูก เอาเป็นว่าก็อร่อยดี
ช่วงบ่ายเป็นฟรีไทม์ เราก็เลยได้ละลายเงินรูเปียอีกครั้งกับ
แหะๆๆ...............................................................
จบทัวร์เกาะ Samosir กันด้วยภาพบรรยากาศอีกสักเล็กน้อย ตอนหน้าจะขอเม้าท์คุณนายและเพื่อนร่วมทัวร์กับเรื่องชอปปิ้งแบบจัดเต็ม
No comments:
Post a Comment