"เอ็ดเวิร์ด ทูเลน ตามหาหัวใจไกลสุดฟ้า" หนังสือเล่มนี้ได้มาด้วยความสะดุดตาจากงานหนังสือ
อ่านจบรอบแรก เรางงแฮะ คือเราตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะสงสารหรือหมั่นไส้เอ็ดเวิร์ดกันแน่
บางมุมเราดันคิดว่าคนเขียนเค้าตั้งใจให้เราหมั่นไส้เอ็ดเวิร์ดหรือเปล่าเนี่ย
ไม่รู้เป็นที่อารมณ์ของเราตอนที่อ่านหรือเปล่า (ช่วงนั้นอาจจะมองโลกในแง่ร้าย)
พออ่านรอบต่อๆ มา ก็เริ่มเห็นใจเอ็ดเวิร์ดมากขึ้น แต่ชอบภาพประกอบของหนังสือเล่มนี้มาก มันละมุนละไมดีแท้ เหมาะกับการอ่านก่อนนอน มากๆ
พออ่านรอบต่อๆ มา ก็เริ่มเห็นใจเอ็ดเวิร์ดมากขึ้น แต่ชอบภาพประกอบของหนังสือเล่มนี้มาก มันละมุนละไมดีแท้ เหมาะกับการอ่านก่อนนอน มากๆ
ชั้นหนังสือไปอ่านกระทู้ๆ หนึ่งในพันทิพ พูดถึงหนังสือที่อ่านในรอบสัปดาห์ มีคนอ่านหนังสือเล่มนี้ฉบับภาษาอังกฤษ “The Miraculous Journey of Edward Tulane” อ่าว เล่มนี้นี่นา เค้าบอกว่าในซีรีส์เกาหลีเรื่อง “별에서 온 그대” หรือ “You Who Came From the Star” ที่มีคิมซูฮยอนกับจอนจีฮุนนำแสดง คิมซูฮยอนแสดงเป็นโทมินจุน จับผลัดจับผลูมาเป็นผู้จัดการของดาราสาวชื่อดังชอนซงอีที่เล่นโดยจอนจีฮุน เราดูไปได้บางตอน ยังดูไม่จบเลยไม่รู้ทำไม แต่ในทวิตเตอร์นี่ดังมากทีเดียว พอซับไทยออก “โทเมเนเจอร์” ก็จะเต็มไทม์ไลน์ ในเรื่องโทเมเนเจอร์มีห้องสมุดส่วนตัวที่ใหญ่มากกกกกกกกก (me//อิจฉาขั้นสุด) ก็แน่ละนะ เค้าสะสมหนังสือมากว่า 400 ปี นี่นา ปรากฏว่ามีฉากโทเมเนเจอร์นอนอ่านหนังสือเรื่องนี้ (ฉบับแปลเกาหลีนะ แหมะ นึกว่าโทเมเนเจอร์จะอินเตอร์)
ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับซีรีส์มาเพิ่มเติม
เค้าบอกว่าโครงเรื่องหนังสือเล่มนี้เข้ากับนิสัยของโทเมเนเจอร์พอดีด้วย คนเขียนบทก็ใส่ใจรายละเอียดดีนะ
จากซีรีส์มีบทพูดของโทเมเนเจอร์เกี่ยวกับกระต่ายเซรามิค
(คุณเอ็ดเวิร์ดเป็นกระต่ายเซรามิคนะจ๊ะ ลืมบอกไป) โทเมเนเจอร์เปรียบตัวเองเป็นเหมือนเอ็ดเวิร์ดนี่เอง
ที่ค่อยๆ เปิดใจรับคนอื่นเข้ามา
แต่มีบทพูดอีกอันหนึ่งที่โดนใจดีแฮะ
เป็นตอนที่ยังปากแข็งอยู่ โทเมเนเจอร์บอกว่า
โทเมเนเจอร์ทำให้เราเริ่มเข้าใจเอ็ดเวิร์ดมากขึ้นนะ
ที่ว่าทำไมเอ็ดเวิร์ดดูเย็นชา เย่อหยิ่ง
มันคงเป็นระบบการปกป้องตัวเองของจิตใจของคนเรานั่นแหละ การทำเป็นไม่ใส่ใจจะทำให้เราเจ็บน้อยลง
แต่ก็นั่นแหละ สิ่งที่แย่กว่าการต้องเจ็บซ้ำๆ ก็คือการสูญเสียศรัทธา
เพราะเมื่อเราไม่มีความหวังและศรัทธาต่อสิ่งนั้นแล้ว
เราไม่มีทางเดินต่อไปในเส้นทางนั้นได้อีก ยังไงก็ต้องถอย เหมือนว่าเอ็ดเวิร์ดกับโทเมเนเจอร์กำลังบอกให้เราต้องไม่สูญเสียศรัทธาในความรัก และปลายทางของทั้งสองเรื่องก็มีความสุขรออยู่
การรักษาศรัทธาและความหวังก็ดีอยู่หรอก
แต่ไม่ค่อยตรงกับสถานการณ์ปัจจุบันของเราเท่าไหร่เลย
ความรักตอนนี้ไม่เป็นปัญหา
แล้วถ้าเป็นศรัทธาและความหวังในเรื่องอื่นหล่ะ สักพักมานี้เรามีเรื่องที่ตัดสินใจเลิกทำ
และพอมองกลับไปก็จะเกิดคำถามว่า จริงๆ เราน่าจะลองไปต่อหรือเปล่านะ ที่เราคิดว่ามันไม่ได้
ที่เราไม่มีความหวังในตอนนั้น
มันเป็นสภาวะชั่วคราวของจิตอันไม่มั่นคงของเราหรือเปล่านะ ตอนนั้นคือรู้สึกเลยว่าเราสูญเสียความหวังที่จะประสบความสำเร็จไปแล้ว
และอารมณ์ที่น่าหงุดหงิดในตอนนี้คือ ความคิดที่ว่า เราสูญเสียความหวังเร็วไปหรือเปล่านะ
แต่เรื่องนี้คงไม่มีใครตอบได้ดีกว่าเรา เมื่อเราก้าวไปสู่การเดินทางก้าวใหม่แล้ว
โลกใบใหม่กำลังรอเราอยู่
ครั้งนี้เราหวังว่าจิตใจเราจะเข้มแข็งพอที่จะไม่สูญเสียความหวังไปอีก
โพสต์นี้ดูเป็นลูกผสมยังไงๆ
นะ ชั้นหนังสือก็แนะนำหนังสือเล่มหนึ่งนะ แถมด้วยซีรีส์เกาหลีอีกเรื่องหนึ่ง (ที่ชั้นหนังสือว่าต้องให้เครดิตคนเขียนบทแบบเยอะๆ
เลยนะ เพราะบทของเรื่องนี้มันเต็มไปด้วยบทพูดที่น่าสนใจ) แต่ก็เป็นโพสต์ที่มีเรื่องเล่าส่วนตัว
ราวกับไดอารี่ปรับทุกข์อยู่เยอะพอสมควร จัดหมวดหมู่ไม่ค่อยจะถูกเลย
ไม่น่าเชื่อว่าหนังสือกับซีรีส์ที่เหมือนว่าจะเป็นสื่อเพื่อความบันเทิงจะทำให้เราย้อนคิดถึงชีวิต
และสอนข้อคิดต่างๆ ให้กับเรา
เอ็ดเวิร์ดสอนเราอีกอย่างหนึ่งว่า
สิ่งที่มีอยู่ย่อมมีคุณค่าเสมอ จงรับรู้ถึงคุณค่าเหล่านั้น ณ ขณะที่เรายังมีสิ่งนั้นอยู่
การรับรู้คุณค่าของสิ่งที่สูญเสียไปแล้วไม่มีประโยชน์หรอก ฉะนั้นใส่ใจคนที่คุณรักและรักคุณไว้ในทุกๆ
วันเถิด
แถมท้ายด้วยข่าวเล็กๆ
น้อยๆ จากฉากอ่านหนังสือของโทเมเนเจอร์ในซีรีส์ ปรากฏว่า
ยอดขายหนังสือดังกล่าวในเกาหลีใต้พุ่งขึ้นทันที โทเมเนเจอร์นี่มีอิทธิพลไม่ธรรมดาเลย
เมื่อวานก็มีแฟนมีตติ้งคิมซูฮยอนในไทยไป ไปส่อง tag มา คิมซูฮยอนดูเกรียนและขี้เล่นมากๆ
ชั้นหนังสือว่าจะต้องมีคนไปตามหาหนังสือเล่มนี้ในงานสัปดาห์หนังสือที่กำลังจัดอยู่ตอนนี้ด้วยแน่ๆ
เลย ฉบับแปลไทยจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เพ็ทแอนด์โฮม
แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะเอาหนังสือไปออกบูทด้วยหรือเปล่า เพราะก็ไม่ใช่หนังสือใหม่แล้ว ยังไงไปลองถามดูละกันนะ