ใครไม่อยากหลับอยากนอน ชั้นหนังสือวันนี้ขอเสนอหนังสือแนวสืบสวนสอบสวน ฆาตกรรม ซ่อนเงื่อน ปนระทึกลึกลับ ทับปมปัญหาชีวิต (อะไรมันจะสลับซับซ้อนปานนั้น) ของเจ้าพ่อจอมหักมุมพลิกพลอต อย่าง Harlan Coben นักเขียนชาวอเมริกัน
คุณไม่สามารถไว้วางใจ Coben ได้เลย ว่าเค้าจะมาไม้ไหนกับคุณ ขนาดว่าจนบทสุดท้ายแล้ว เค้าก็อาจจะมาเฉลยประเด็นใหม่ให้ต้องร้อง...เหยดดดดดด...ได้อีก
(ขออภัยสำหรับคำไม่สุภาพ ไม่รู้จะใช้คำอะไรจริงๆ ของอย่างงี้ต้องลองเองนะ)
(ขออภัยสำหรับคำไม่สุภาพ ไม่รู้จะใช้คำอะไรจริงๆ ของอย่างงี้ต้องลองเองนะ)
นิยายของ Cohen มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะเป็น Series ที่มีตัวเอกชื่อ Myron Bolitar แต่ละเล่มก็จะเกี่ยวกับคดีต่างๆ ที่พระเอกจะเข้าไปเกี่ยวข้อง พอเป็นนิยายแบบ Series คือ จะเขียนต่อไปอีกเรื่อยๆ ตอนนั้นเราเลยเกิดอคติ แบบว่า เฮ้ย ไม่อ่ะ ชั้นจะไม่เป็นทาสการตลาด หันมามองกลุ่มที่สอง กลุ่มนี้เป็นนิยายเล่มเดียวจบ (หมายถึงแต่ละเล่มก็มีตัวละครของเล่ม ต่างกันไป) เล่มแรกที่อ่านคือ
‘Tell No One’ หรือในชื่อไทย ‘อย่าบอกใคร’
สนุกมาก อ่านรวดเดียวจบ ตัวพระเอกคืออยู่ดีๆ ก็ได้รับ เมลล์จากอดีตแฟน (ที่คิดว่าตายไปแล้ว) ทำให้เกิดเรื่องต้อง
เข้าไปพัวพันกับคดีที่ทำให้เสียแฟนไปเมื่อ 8 ปีก่อน
เข้าไปพัวพันกับคดีที่ทำให้เสียแฟนไปเมื่อ 8 ปีก่อน
สิ่งที่คุณรู้ สิ่งที่คุณคิด มันอาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้
จริงๆ แล้ว ทุกคนก็คงมีความลับแม้กับคนที่ใกล้ชิดที่สุด หรือ
คนในครอบครัว เจตนาก็เพื่อปกป้องคนที่รักนั่นแหละ
แต่บางทีความลับมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายเรา
ในวันที่ความจริงเปิดเผยออกมาความตื่นเต้นของเรื่องไม่ได้อยู่แค่ว่าใครเป็นคนร้าย
แต่คำถามจะต้องย้อนไปถึงว่าใครเป็นใคร และเค้าทำอย่างนั้นทำไม
จริงๆ แล้ว ทุกคนก็คงมีความลับแม้กับคนที่ใกล้ชิดที่สุด หรือ
คนในครอบครัว เจตนาก็เพื่อปกป้องคนที่รักนั่นแหละ
แต่บางทีความลับมันก็ย้อนกลับมาทำร้ายเรา
ในวันที่ความจริงเปิดเผยออกมาความตื่นเต้นของเรื่องไม่ได้อยู่แค่ว่าใครเป็นคนร้าย
แต่คำถามจะต้องย้อนไปถึงว่าใครเป็นใคร และเค้าทำอย่างนั้นทำไม
นิยายของ Coben มีฉากหลังเป็นสังคมอเมริกันธรรมดาๆ ครอบครัวระดับกลางๆ ที่พบได้ทั่วไป แต่
คนธรรมดาๆ กลับมีอดีตที่ไม่ธรรมดา การเฉลยปมอดีตของตัวละครเป็น gimmick ของการอ่านนิยายของเค้าเลยทีเดียว
คนธรรมดาๆ กลับมีอดีตที่ไม่ธรรมดา การเฉลยปมอดีตของตัวละครเป็น gimmick ของการอ่านนิยายของเค้าเลยทีเดียว
เราติดใจ และตามอ่านนิยายของ Coben อย่างต่อเนื่อง อมรินทร์ก็ใจดีจัง (หรอ?) แปลออกมาอย่าง
ต่อเนื่อง และจากตอนแรกที่คิดว่า มันไม่เป็นหนังสือแบบ Series ก็เริ่มรู้สึกว่า ผิดละ อ้าว....ลุง Coben แกตั้งชื่อนิยายมาเป็นชุด คือจะใช้คำสั้นๆ เรียกความสนใจ เราก็ตามอ่านอย่างเพลิดเพลินสิ (สรุปก็เป็นทาสการตลาดอยู่ดี)
ต่อเนื่อง และจากตอนแรกที่คิดว่า มันไม่เป็นหนังสือแบบ Series ก็เริ่มรู้สึกว่า ผิดละ อ้าว....ลุง Coben แกตั้งชื่อนิยายมาเป็นชุด คือจะใช้คำสั้นๆ เรียกความสนใจ เราก็ตามอ่านอย่างเพลิดเพลินสิ (สรุปก็เป็นทาสการตลาดอยู่ดี)
Tell No One – อย่าบอกใคร Gone For Good – หาย
The Innocent – ไม่รู้ The Woods – พราง
Hold Tight – อย่าเผลอ No Second Chance – โอกาสสุดท้าย
Just One Look – อย่ามอง Caught – คืน
Play Dead – แกล้ง (อันนี้เรางงว่า ทำไมไม่เป็น แกล้งตาย แต่ แกล้ง เฉยๆ)
Stay Close – ซ่อน
อย่าตกใจ ถ้าจะบอกว่าเรามีครบ ขาดแค่ No Second Chance เฮ้ย ทำไม??? ตามอ่านเรื่อยๆ นะ
ข้ามเล่มนี้ไปได้ยังไง งงตัวเอง เพิ่งรู้ตัวตอนจะเขียน blog นี้แหละ ว่าเราพลาดไปเล่มนึง
แต่ละเล่มมีความสนุก น่าสนใจแตกต่างกันไป เล่มโปรดของเราคิดว่าเป็น Hold Tight กับประโยค คำโปรยที่ว่า “คุณจะยอมล้ำเส้นไปไกลแค่ไหน เพื่อปกป้องคนที่คุณรัก มากที่สุด” กับ Play Dead ที่เป็นนิยายเล่มแรกที่ Coben เขียนไว้กว่า 30 ปีแล้ว (ตั้งแต่ยังไม่ดัง) แล้วเค้าก็กล้าที่จะเอามันมาตีพิมพ์อีกครั้ง โดยไม่ได้แก้ไขใดๆ เลย โหย...(จุดไปอีกล้านตัว แต่เปลืองพื้นที่ จินตนาการเอาเองนะ ^^) โคตรเจ๋งอะ
ตอนนี้ก็เลยเป็นแฟนหนังสือลุง Coben ไปละ เออ แต่เราก็ยังไม่ยักกะไปอ่านชุด Myron Bolitar นะ ฮ่าๆๆๆ ใครเคยอ่านลองมาจูงใจเราหน่อยสิ อยากได้แรงบันดาลใจ ^^^
ตอนนี้นอกจาก Myron หลานชายชื่อ Mickey Bolitar ก็ออกมามีตัวตนอีกราย เป็นอีกหนึ่ง Series (ซึ่งก็ไม่ยอมอ่านเช่นกัน อินดี้จัด 555++ เลยไม่ได้อ่าน เล่มใหม่ๆ เลย เพราะเค้าออกแต่ชุด Myron) นับถือความขยันของลุง Coben เลย มืออาชีพมาก ออกหนังสือสม่ำเสมอ
แถมท้ายอีกนิด เกือบลืมเลย... Coben เขียนนิยายเป็นหลัก แต่เราไปเจอเรื่องสั้นที่ Coben เขียนเอาไว้ เรื่อง Entrapped (แปลไทย - หลงกล) ถูกเอามาแปลรวมเล่มอยู่ในหนังสือ รหัสคดี เล่ม 22 'คิดสั้นสักครั้งก็ยังดี' อ่านแล้วก็รู้สึกเลยว่า อะไรจะชอบการหักมุมขนาดนั้น...ทางของเขาจริงๆ
ใครชอบหนังสือเล่มไหนของ Harlan Coben ก็ comment บอกกันบ้างนะ
No comments:
Post a Comment