Sunday, March 2, 2014

Japanese 'And Then There Were None'

เมื่อคืนนอนไม่หลับค่ะ โพสต์นี้จึงเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน จากสาเหตุที่นอนไม่หลับนี่แหละ หลังจากเล่น Cookie Run จนหมดใจ (ได้ล้านแต้มแล้วจ้า อวดๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ) ดันเกิดอาการนอนไม่หลับ คิดมากโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ไม่ไหวละ ลุกไปหยิบหนังสือบนชั้นมาอ่าน อันนี้เป็นนิสัยส่วนตัว เวลานอนไม่หลับ จะหยิบหนังสือเก่าๆ ที่มีอยู่ มาอ่านซ้ำ กวาดนิ้ว (และตา) ไปตามชั้นหนังสืออยู่สองรอบ ก็ตกลงว่าเอาเล่มนี้ละกัน

เวลาอ่านหนังสือกลางดึก เมื่อนอนไม่หลับ ปกติจะทำใจสบายๆ ว่า อ่านไปเรื่อยๆ เบื่อก็หยุด ง่วงก็พอ เพราะอ่านให้นอนหลับได้แค่นั้น แต่ก็มีหลายครั้งที่สุดท้ายแล้ว ก็อ่านไปๆ จนจบเล่มอยู่ดี (อย่าตกใจที่อ่านหนังสือเร็ว คือ มันไม่ใช่รอบแรกอยู่แล้วด้วย ทำความเร็วได้ บางหน้าก็กวาดๆ ตา อ่านเฉยๆ) เมื่อคืนก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง

รู้จัก ‘And then there were none’ หรือ และแล้วก็ไม่เหลือใคร ไหม ชั้นหนังสือคิดว่าหลายคนต้องรู้จัก หรือไม่ก็คุ้นกับชื่อนี้ นิยายเรื่องดังกล่าวเป็นหนังสือของอกาธา คริสตี ราชินีนิยายสืบสวนสอบสวน ดัดแปลงมาจากเพลง [ลองคลิกที่ลิ้งก์ตรงคำว่าเพลงสิ มีเพลงให้ฟังอยู่นิดนึง แถมด้วย trailer ของภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายเรื่องนี้] เกี่ยวกับเด็กอินเดียนแดง ที่มีเด็ก 10 คน ค่อยๆ ตายไปทีละคน ต่างสาเหตุกัน จนสุดท้ายตายทั้งหมด ในเรื่องก็เป็นการรวมตัวกันของคนหลากหลาย ต่างที่มา 10 คน แล้วเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นทีละรายๆ คนที่เหลือคนสุดท้ายได้ฆ่าตัวตาย แต่เรื่องก็มาปิดท้ายที่คำสารภาพของฆาตกร ไม่อยากเล่ารายละเอียดเลย เพราะ และแล้วก็ไม่เหลือใคร ของคุณป้าอกาธาก็เป็นหนังสือที่น่าอ่านอีกเล่มหนึ่งเช่นกัน ประมาณว่า คุณจะบอกว่าคุณเป็นคอนิยายนักสืบไม่ได้เลย ถ้าไม่เคยอ่าน และแล้วก็ไม่เหลือใคร ของคุณป้าอกาธา 

แต่เราจะเขียนถึง และแล้วก็ไม่เหลือใคร ที่ไม่ใช่นิยายฝรั่งนี่นา เราจะเขียนถึงนิยายญี่ปุ่นต่างหาก และแล้วก็ไม่เหลือใคร เล่มที่จะพูดถึงนี้ เขียนโดย อิมะมุระ อายะ นักเขียนหญิงชาวญี่ปุ่น

เราคิดว่าคุณอายะ ใจกล้า มากทีเดียว ที่นำเอา และแล้วก็ไม่เหลือใคร มาย่อยและสร้างสรรค์ใหม่ในแบบของเธอ คือเธอก็เป็นผู้หญิง แต่กลับนำเอา และแล้วก็ไม่เหลือใคร ของคนที่ถูกยกย่องว่าเป็นราชินีนิยายสืบสวนสอบสวน มาโยงด้วย ถ้าแต่งไม่ดี มันอาจจะกลายเป็นการลอกเลียนโครงเรื่อง ซึ่งไม่ทำให้เกิดอะไรใหม่ๆ




และเพราะความเจ๋งจริงของโครงเรื่องนี่แหละ ที่ทำให้เราอ่าน และแล้วก็ไม่เหลือใคร ของคุณอายะแบบวางไม่ลง ปมฆาตกรรมที่ผูกขึ้นอ่านแล้วดูเป็นญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น ยังไงก็ไม่รู้ และถึงแม้เราจะเคยอ่าน และแล้วก็ไม่เหลือใคร ของคุณป้าอกาธามาแล้ว เราก็ถูกคุณอายะ ดึงไปดึงมา จนชักหลงว่าแล้วตกลงใครเป็นคนดี ใครเป็นคนร้ายกันแน่ แต่ที่แน่ๆ อ่านจบ เกิดอาการขนลุกซู่ขึ้นมาทีเดียว 

อดไม่ได้ที่จะพูดถึงสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือเล่มนี้หน่อย เสียดายนะ ตอนนี้ สำนักพิมพ์เลิกทำไปแล้ว Bliss เป็นจุดเริ่มต้นของการอ่านนิยายแปลภาษาญี่ปุ่น (เริ่มต้นจากเดอะริง) เป็นบูทที่แวะทุกครั้งเมื่อไปงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ เพื่อถามหาหนังสือเล่มใหม่ๆ ของนักเขียนที่ติดใจ อย่างนิยายของคุณอายะ เราก็ได้อ่านอยู่ 3 เล่ม และชอบทุกเล่ม

ในหมวดนิยายแปลภาษาญี่ปุ่น ชั้นหนังสือของเราจะเป็นหนังสือแนวสืบสวน ลึกลับ ฆาตกรรม ซับซ้อนพลิกผัน ซะเป็นส่วนใหญ่ และเราว่าเรื่องแนวนี้นักเขียนญี่ปุ่นทำได้ดีจริงๆ กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นมันจะลอยโชยเด่นชัดออกมาจากตัวหนังสือเลย อา...หิวเทมปุระ !!!!!! เกี่ยวไหม

ใครอยากระทึกขวัญ ตื่นเต้น แต่ผสมด้วยความหวานแบบญี่ปุ่นๆ ก็ลองหานิยาย JBook ชุด Suspense ของ Bliss มาอ่านกันดูนะ




สำหรับวันนี้ขออนุญาต さよなら 



No comments:

Post a Comment