กีย์ เดอ โมปัสซังต์ (แค่ชื่อก็เท่แล้ว) เป็นนักเขียนชาวฝรั่งเศส (1850-1893) ชายผู้มีชีวิตราวกับศิลปิน วัยเด็กที่ไม่หวาน ความโด่งดังที่รวดเร็ว นิสัยแปลกประหลาด โรคร้าย และการตายตั้งแต่อายุน้อย
โมปัสซังต์เขียนเรื่องสั้นกว่า 300 เรื่อง นิยาย 6 เรื่อง บันทึกการเดินทาง 3 เล่ม แล้วก็บทร้อยกรอง 1 ชิ้น
(ข้อมูลจาก http://www.online-literature.com/maupassant/)
(ข้อมูลจาก http://www.online-literature.com/maupassant/)
ผลงานที่มีการแปลเป็นภาษาไทยของโมปัสซังต์ตอนนี้มีแต่เรื่องสั้น ซึ่งก็มากขนาดรวมเล่มได้มากกว่า 5 เล่ม (อันนี้เท่าที่เคยอ่าน ณ กุมภาพันธ์ 2014) มีระบุชื่อเรื่องภาษาอังกฤษประกอบไว้ทุกเรื่อง เพราะแปลจากภาษาอังกฤษ บางทีก็ไม่ตรงกับชื่อเรื่องภาษาไทยซะทีเดียว (ถือเป็นความสร้างสรรค์ของแต่ละภาษา)
เล่มแรกได้จากงานสัปดาห์หนังสือมีนา 52 หนังสือจั่วหัวว่า “The Best of Guy De Maupassant Short Stories” ชื่อไทยใช้ว่า “เงื้อแล้ว...ก็ต้องฟัน” คือเอาชื่อของเรื่องๆ หนึ่งในเล่ม ที่คนแปลคงคิดว่าเด็ดสุดมาเป็นชื่อหนังสือซะเลย – ซึ่งพออ่านแล้วก็ เออ เห็นด้วย!! (หน้าปกสีส้มๆ เล่มซ้ายสุดจากรูป)
ก่อนอ่านนะ เอาจริงๆ คือ นอกจากเจ้าชายน้อย (นี่ก็หนังสือระดับ epic อีกเล่ม ไว้ว่างๆ จะมาพูดถึง) ก็ยังไม่เคยอ่านนิยายนักเขียนชาวฝรั่งเศสมาก่อน เฮ้ย! อ่านแล้วไม่ผิดหวัง เรื่องสั้นๆ ประมาณเรื่องละ 10-15 หน้า plot คือสำคัญที่สุด และโมปัสซังต์คือเจ้าพ่อ plot ที่เจ๋งสุดๆ (เอ๊ะ! คำนี้มันโบราณไปปะเนี่ย) จะให้ทันสมัยก็ต้องบอกว่าสุดติ่งกระดิ่งแมว ซึ่งไม่ควรเอามาสปอยล์อย่างยิ่ง เอาเป็นว่า ต้องไปลองอ่านเอง
ที่นี้ สนพ.freeform ออกเพิ่มมาอีก 3 เล่ม ก็เลยตามอ่าน
แต่สิ่งที่ทำให้ blog นี้เกิดขึ้นมา ต้องยกให้ 2 เล่ม ที่เพิ่งได้อ่านเพราะไปเจอที่บ้านเชียงใหม่
หนังสืออายุมากกว่าเราเสียอีก cool สุดๆ
หนังสือเล่มละ 30 บาท หาไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบัน
ในเล่มเก่ามีบางเรื่องซ้ำกับฉบับรวมเล่มยุคใหม่ของ freeform ที่แปลกคือตั้งชื่อเรื่องภาษาไทยไม่เหมือนกันด้วย แล้วก็ไม่ได้แปลตามคำภาษาอังกฤษมาเป๊ะๆ อีกต่างหาก นี่แหละ เสน่ห์ของภาษาและงานแปล
อย่างเรื่อง his landlady ฉบับเก่าอยู่ในเล่ม “ตัณหาวูบเดียว” ใช้ชื่อ “อดหวาน กินเปรี้ยว” ส่วนฉบับใหม่ใช้ชื่อ “เงื้อแล้วก็ต้องฟัน” ถ้าอยากรู้ว่าทำไมชื่อเรื่องเป็นงี้ ไปลองอ่านนะ (บอกแล้วว่าสปอยล์ไม่ได้จริงๆ -/\-)
เรื่องสั้นของโมปัสซังต์มีฉากหลังเป็นสังคมฝรั่งเศสในยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งแปลกหูแปลกตาสำหรับเรา คนฝรั่งเศสนี่ท่าจะชอบมีกิ๊ก คือแบบ flirting ใส่กันอะไรทำนองนั้น คนปารีสก็จะไฮโซ คนบ้านนอก ก็เป็นเกษตรกร คนรวยมีปราสาทตามบ้านนอก ว่างๆ ก็ยิงสัตว์ เที่ยวชมธรรมชาติ เป็นเรื่องสั้นอ่านเพลินๆ แบบคนอ่านจะมาอึ้งเอาในตอนสุดท้าย แล้วก็หยุดอ่านไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าเรื่องต่อไป โมปัสซังต์จะมามุกไหนอีก
สำหรับคนที่อยากตามอ่าน ก็แนะนำเล่ม The Best เล่มแรก เล่มสีส้มๆ สนุก คมกริบ ไม่บันยะบันยัง ตามคำโปรยหน้าหนังสือทุกเรื่อง ถ้าชอบก็ลองตามอ่านเล่มอื่นๆ ต่อแต่เล่มโบราณ 2 เล่มที่เราได้มา คิดว่าคงหาอ่านยาก
ใครมีหนังสือเก่าๆ สนุกๆ เอามาเล่าสู่กันฟังได้นะ
No comments:
Post a Comment